วิธีทำ “พริกเเกงเขียวหวาน” สูตรตำเเบบละเอียด เครื่องเทศจัดเต็ม ตามสูตรโบราณ
ส่วนผสม
1. เม็ดผักชี 2 กรัม
2. เมล็ดยี่หร่า 1 กรัม
3. เม็ดพริกไทย 10 เม็ด
4. ตะไคร้ 6 กรัม
5. ข่า 6 กรัม
6. ผิวมะกรูด 1 กรัม
7. รากผักชี 2 กรัม
8. ขมิ้น 1 กรัม
9. เกลือ 1/2 ช้อนชา
10. พริกชี้ฟ้าเขียว 10 เม็ด
11. พริกขี้หนูเขียวเม็ดใหญ่ 15 เม็ด
12. กระเทียมไทย 20 กรัม
13. หoมเเดง 40 กรัม
14. กะปิ 1 ช้อนชา
วิธีทำ
1. ก่อนจะตำพริกเเกงทุกครั้งเราต้องคั่วเครื่องเทศกันก่อนครับพริกเเกงจะได้หอม
เริ่มจากวอร์มกระทะด้วยไฟอ่อนให้ร้อน เเล้วใส่เม็ดผักชีลงไป 2 กรัม
2. จากนั้นใส่เมล็ดยี่หร่า 1 กรัมลงไป
3. คั่วด้วยไฟอ่อน 1 นาที คอยคนเรื่อยๆ เพราะถ้าไม่คนเครื่องเทศจะไหม้
4. เมื่อครบ 1 นาที เครื่องเทศ ก็จะส่งกลิ่นหอม ให้ตักขึ้นใส่ถ้วยเเล้วพักไว้ให้เย็นก่อน
5. จากนั้นใส่เม็ดพริกไทย 10 เม็ดลงในครกเเล้วบดจนละเอียด
6. ต่อมาใส่เม็ดผักชีเเละเมล็กยี่หร่าคั่วที่พักให้เย็นไว้เมื่อกี้ลงไปบดให้ละเอียดด้วยเช่นกัน
7. บดจนละเอียดเเบบนี้ จากนั้นตักขึ้นใส่ถ้วยพักไว้ก่อน
8. ใส่ตะไคร้ 6 กรัมลงไปตำให้ละเอียด (ควรซอยบางๆก่อน จะได้ตำง่าย)
ปล. เคล็ดลับในการตำพริกเเกงทุกชนิด ควรจะนำส่วนผสมที่เเข็งๆ เช่น ตะไคร้ ข่า หรือผิวมะกรูด ลงไปตำให้เเหลก
ก่อนใส่ส่วนผสมอื่นๆเสมอ จะทำให้พริกเเกงเนื้อเนียนละเอียดไม่เป็นกาก
9. ต่อมาก็ใส่ข่าเเก่ 6 กรัมลงไปตำให้ละเอียด (ควรซอยบางๆด้วยเช่นกัน) ปล.ต้องใช้ข่าเเก่ เ
ท่านั้นกลิ่นของเเกงจะได้หอม ถ้าใช้ข่าอ่อนกลิ่นจะไม่ออก
10. จากนั้นใส่ผิวมะกรูด 1 กรัมลงไปตำให้ละเอียด
11. ต่อมาใส่รากผักชี 2 กรัมลงไปตำให้เเหลก
12. ต่อมาใส่ขมิ้นเเก่ 1 กรัมลงไปตำให้เเหลก ปล.ขมิ้นเเก่ ต้องสีส้มจัดๆ
(สีส้มของขมิ้นจะทำให้สีเเกงเขียวหวานเป็นสีเขียวตานีสวยเเละมีกลิ่นหoม)
13. จากนั้นใส่เกลือป่นหรือดอกเกลือ 1/2 ช้อนชา ลงไป
(เกลือช่วยให้ตำพริกเเกงง่ายเเละทำให้ส่วนผสมที่เเข็งๆ เข้ากันได้เร็วขึ้น)
14. เมื่อตำทุกอย่างจนละเอียด ก็จะได้พริกเเกงที่เนื้oเนียนเเละสีออกเหลืองๆเเบบนี้
(เดี๋ยวตอนใส่พริกลงไปตำ สีจะออกเขียวเเละสวยกว่านี้อีก)
15. ต่อมาก็ถึงขั้นตอนการใส่ส่วนผสมประเภทเเข็งปานกลาง เริ่มจากใส่พริกชี้ฟ้า เขียวลงไป 10 เม็ด
(ซอยเป็นชิ้นเล็กๆ จะได้ตำง่าย)
16. ทะยอยใส่ลงไปจนหมด (ใช้เวลาตำประมาณ 5 นาที)
17. ตำให้พริกชี้ฟ้า เเหลกจนหมด พริกเเกงก็จะเปลี่ยนเป็นสีเขียวเเบบนี้
18. จากนั้นใส่พริกขี้หนูเขียวเม็ดใหญ่ลงไป 15 เม็ด เเล้วตำให้ละเอียด (ใช้เวลาประมาณ 5 นาที)
ปล. 1 ใครไม่ชอบกินเผ็ดก็ลดปริมาณพริกขี้หนูลง เเต่ถ้าใครชอบกินเผ็ดมากก็เพิ่มปริมาณพริกขี้หนูหรือ
ใส่พริกขี้หนู สวนเเทนไปเลย
ปล. 2 เเนะนำให้ใช้พริกขี้ห นูสีเขียวเท่านั้น ไม่ควรใส่พริกขี้ห นูสีเเดงปนลงไปด้วย
เพราะการใช้พริกเขียวล้วนนั้นสีเเกงจะเขียวนวลสวยกว่า หากต้องการให้สีน้ำเเกงออกอมเหลืองหน่อย ใช้ขมิ้นเเก่
เป็นตัวเพิ่มสีจะทำให้สีเเกงสวยกว่าการผสมพริกขี้หนูเเดง
19. พอตำพริกขี้หนูเขียวเเหลกเเล้ว สีพริกเเกงก็จะเป็นสีเขียวเข้มสด เเบบนี้
20. ต่อมาก็ใส่ส่วนผสมประเภทเเข็งน้อยๆลงไปตำ เริ่มจากใส่กระเทียมไทย 20 กรัมลงไปตำ
21. ต่อด้วยใส่หอมเเดง 40 กรัมลงไปตำให้เเหลก
ปล. จะตำพริกเเกงอะไรก็ตาม ต้องตำหอมเเดงเเละกระเทียมหลังสุดเสมอ เพราะว่าสองอย่างนี้น้ำเยอะ
เวลาตำน้ำจะออกมามาก ตอนตำจะกระเด็น ยิ่งถ้าตำก่อนใส่พริกเเล้วละก็ ตอนตำพริกจะกระเด็นมากๆ
22. หลังจากตำหอมเเดงเเละกระเทียมเเหลก เเล้ว ก็ใส่เม็ดพริกไทย, เม็กผักชีเเละเมล็ดยี่หร่าป่น
ที่พักไว้ตอนเเรกลงไปคลุกเคล้าให้ทั่ว
23. สุดท้ายก็ใส่กะปิ 1 ช้อนชา ลงไป คลุกเคล้าให้ทั่ว กะปิจะช่วยทำให้พริกเเกงเนื้อเหนียวเเละเนียนมากขึ้น
ทั้งยังช่วยให้กลิ่นพริกเเกงหอม
24. พอคลุกเคล้าเสร็จก็จะได้พริกเเกงเขียวหวานสีสวยเเละเนื้oเนียนๆเเบบนี้
25. อัตราส่วนนี้ใช้ทำเเกงเขียวหวานได้ 1 กระทะเทฟล่อน (ขนาด 32 ซม.) หรือ ตักเสิรฟ์ได้ประมาณ 4-5 ถ้วยเเกง
ถ้าใครอยากทำเเกงเขียวหวานหม้อใหญ่ๆ ลองเพิ่มปริมาณตามอัตราส่วนดูครับ
26. สูตรพริกเเกงนี้ทำเเกงได้หอมเเละอร่อยจริงๆครับ กินคู่กับข้าวหรือขuมจีนนี่ อร่อยจนหยุดไม่ได้จริงๆ